บ้านเดี่ยว ดีไลท์ รัตนาธิเบศร์ – ท่าอิฐ

บ้านเดี่ยว ดีไลท์ รัตนาธิเบศร์ – ท่าอิฐ ตั้งอยู่ภายในซอยท่าอิฐที่สามารถเข้าออกได้จากถนนเส้นหลัก 2 เส้นคือถนนราชพฤกษ์และถนนรัตนาธิเบศร์ ภายในซอยท่าอิฐเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยในแนวราบโดยช่วงต้นนั้นจะค่อนข้างหนาแน่น แต่สำหรับโครงการดีไลท์นั้นจะปลีกตัวเข้าไปอยู่ด้านในของซอยท่าอิฐค่อนข้างลึกบรรยากาศจึงเงียบสงบ อากาศดีแตกต่างจากบริเวณช่วงต้นๆอย่างสิ้นเชิง

– ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะเดินเท้านั้นไม่มีความอุดมสมบูรณ์ใดๆ ต้องขับรถออกไปบริเวณตลาดท่าอิฐที่เป็นแหล่งตลาดใหญ่ของคนย่านนี้ ห่างจากโครงการร่วม 3 กม. ส่วนห้างใหญ่จุดที่แนะนำเป็นห้างใหม่เซ็นทรัล เวสต์เกท ที่อยู่หัวมุมถนนรัตนาธิเบศร์กับถนนกาญจนาภิเษก ห่างจากโครงการราว 11 กม. โดยด้านข้างมี Big C และ โฮมโปรให้ใช้งานด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ถนนใหญ่บริเวณหน้าปากซอยท่าอิฐมีให้เลือกไปใช้งานได้ 2 เส้นคือถนนราชพฤกษ์และถนนรัตนาธิเบศร์ สำหรับถนนราชพฤกษ์เป็นเส้นที่ใช้เดินทางเข้าตัวเมืองย่านธุรกิจสาทร โดยระหว่างทางมีจุดตัดกับถนนสายสำคัญเช่นถนนบรมราชชนนี, ถนนนครอินทร์และถนนเพชรเกษม ส่วนถนนที่ใช้งานเป็นหลักอีกเส้นคือถนนรัตนาธิเบศร์ใช้เดินทางข้ามแม่น้ำ เจ้าพระยาผ่านสะพานพระนั่งเกล้าไปยังตัวเมืองนนทบุรีย่านแคราย ติวานนท์หรืองามวงศ์วาน และสามารถวิ่งตรงยาวต่อเนื่องไปยังวิภาวดีรังสิตหรือเกษตร-นวมินทร์ได้เลย ส่วนอีกด้านของรัตนาธิเบศร์ไปทางฝั่งตะวันตกคือถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก แต่หากมองถึงทางด่วนนั้นมีทางด่วนขั้นที่ 2 จุดขึ้นลงอยู่บริเวณถนนงามวงศ์วานห่างโครงการราว 13 กม. ก็ถือว่ายังอยู่ในระยะที่รับได้ สามารถใช้งานได้จริง

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – จากการที่ตัวโครงการอยู่ภายในซอยท่าอิฐลึกเข้าไปจากถนนใหญ่พอสมควร อาจทำให้ภาพรวมนั้นมองว่าการเดินทางด้วยรถสาธารณะไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม แต่ความเป็นจริงทางโครงการมีรถ Shuttle Van รับส่งระหว่างโครงการไปยังรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีท่าอิฐ ทำให้ตัวเลือกนี้ไม่ควรถูกมองข้ามถือว่าใช้เป็นตัวเลือกเสริมได้ดี โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) นี้มีกำหนดการเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2559 แต่ข้อจำกัดคือรถ Shuttle นั้นมีเวลาวิ่งในช่วงเช้ากับเย็นเท่านั้น ถ้าเป็นช่วงบ่ายคงต้องเรียกใช้บริการเสริมอย่าง Grab Taxi หรือ Uber แทน

บ้านและวัสดุ – แบบบ้านภายในโครงการเป็นรูปแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้นออกแบบในสไตล์โมเดิร์นโดยมีให้เลือกถึง 4 แบบตามลักษณะขนาดของครอบครัวได้แก่

แบบ Linear A พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
แบบ Linear B พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
แบบ The Line พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
แบบ The Frame พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 2 คัน
สำหรับแบบบ้าน Linear ทั้ง A และ B ที่เป็นขนาดเล็กสุดนั้นมีฟังก์ชั่นการใช้งานในส่วนต่างๆครบครันเหมือนกัน ชั้นล่างมีห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ส่วนเตรียมอาหารที่เชื่อมต่อกับครัวและทางเข้าออกตัวบ้านจากลานจอดรถ ส่วนชั้นบนประกอบด้วย 3 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำที่สามารถเข้าออกจากโถงและห้องนอนหลักได้ ส่วนที่แตกต่างกันคือระเบียงในห้องนอนที่มีในแบบ A ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งเล่นเอนกประสงค์ในแบบ B

แบบบ้าน The Line บ้านขนาดกลางที่มีฟังก์ชั่นต่างๆครบครันเช่นกันแต่จะเพิ่มห้องน้ำอีก 1 ห้องที่ชั้นบนสำหรับ Master Bedroom ให้การใช้งานสะดวกเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนแบบสุดท้าย The Frame ไซส์ใหญ่สุดนั้น ดูจะจัดวางแปลนได้ไม่ลงตัวนักด้วยขนาดห้องครัวที่ให้มาค่อนข้างเล็กดูไม่สมดุลกับพื้นที่ส่วนอื่น การใช้งานจริงอาจจะต้องต่อเติมครัวออกไปที่ด้านหลัง ต่างจากแบบบ้านอื่นที่ครัวภายในบ้านดูกว้างและเพียงพอต่อการใช้งานจริงโดยไม่จำเป็นต้องต่อเติมเพิ่มแต่อย่างใด

– ทางโครงการเลือกใช้วัสดุในระดับมาตรฐานทั่วไป พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. พื้นชั้นบนปูลามิเนต พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิค ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีขาว บานเลื่อนประตูหน้าต่างใช้วัสดุอลูมิเนียมรมดำกระจกสีเขียวตัดแสง โคมไฟให้เป็นโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Mogen และก๊อกน้ำของ American Standard มี Shower Box ให้ในบางแบบ โดยในส่วนของแบบบ้าน The Frame เพิ่มเติมชุดอ่างอาบน้ำให้ในห้องนอนใหญ่

สิ่งอำนวยความสะดวก – พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่บริเวณกลางโครงการประกอบด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่พร้อมลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง อาคารคลับเฮ้าส์ที่ด้านในมีสระว่ายน้ำระบบเกลือแยะสระเด็กสระผู้ใหญ่ จุดนั่งพักผ่อนริมสระน้ำ ชั้นบนของอาคารเป็นฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสมัยใหม่ เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและ CCTV 24 ชม.