ขั้นตอนของการทาสีรั้วบ้านตัวเอง

ขั้นตอนของการทาสีรั้วบ้านตัวเอง หากพูดถึงเรื่องการทาสีด้วยตัวเอง อาจจะดูเป็นงานที่ยาก เพราะหลายคนน่าจะไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่การทาสีโดยเฉพาะการทาสีรั้วบ้านนั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสม และการเลือกชนิดสีให้ถูกต้องกับวัสดุที่เราจะทาลงไป เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลลัพธ์แบบช่างมืออาชีพกันแล้ว ในบทความนี้จะมาช่วยให้การทาสีรั้วบ้านของคุณง่ายขึ้น ด้วย 5 ขั้นตอนของการทาสีรั้วบ้านตัวเอง โดยเราจะเริ่มตั้งแต่การหาไอเดียของสีสันกันเลย

ตามหาไอเดีย และเลือกสีให้เหมาะสม
สีสำหรับทารั้วบ้านนั้นมีให้เลือกมากมาย แต่เราจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสม และอยู่ทนทานมากที่สุด เรามีเทคนิคง่าย ๆ ในการเลือกสีทารั้วบ้าน คือให้ดูว่าตัวบ้านของคุณทาสีอะไรอยู่ สีของหลังคา สีขององค์ประกอบรอบ ๆ บ้าน หากมีสีโทนอ่อนเป็นโทนสีหลัก สีสำหรับทารั้วบ้านให้เพิ่มโทนสีขึ้นมาสัก 1 – 2 โทน เพื่อไม่ให้แสงสว่างสะท้อนเข้าบ้านมากจนเกินไป และหากเลือกใช้เป็นสีโทนเข้มต้องระวังไม่ให้เข้มมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้พื้นที่บริเวณบ้านดูอึดอัดได้

ทำความเข้าใจวัสดุของรั้วบ้านเดิมก่อนที่จะทาสี
ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการลงสีให้ทำความเข้าใจกับวัสดุของรั้วบ้านของเราก่อนว่าทำมาจากวัสดุชนิดไหน เพื่อให้สามารถเลือกประเภทของสีทาทับได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเราได้สรุปมาให้แล้ว ดังนี้

สำหรับรั้วบ้านที่ทำมาจากเหล็ก
สิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนการลงสีคือการทาสีรองพื้นก่อนเพื่อป้องกันสนิม และให้เลือกสีทาทับเป็นประเภทสีน้ำมัน ซึ่งในประเภทของสีน้ำมันก็จะมีชนิดของฟิล์มสีให้เราเลือกได้ตามความชอบ อย่าง สีน้ำมันที่ให้ผลลัพธ์ที่เสร็จแล้วแบบเงา มันวาว กึ่งเงา หรือสีน้ำมันที่ให้ผลลัพธ์เป็นแบบสีด้าน

สำหรับรั้วบ้านที่ทำมาจากอิฐฉาบปูน หรือผนังคอนกรีต
การเลือกสีทาทับลงบนรั้วที่ทำมาจากวัสดุนี้สามารถเลือกใช้สีทาบ้านร่วมกันได้ โดยให้เลือกเป็นสีน้ำอะคริลิกสำหรับทาภายนอก เพื่อให้มีคุณสมบัติครอบคลุมสำหรับการใช้งาน โดยรั้วบ้านต้องเจอกับสภาพอากาศที่แตกต่างกันอยู่เสมอ ซึ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้สีติดทนนาน

สำหรับรั้วบ้านที่ทำมาจากไม้จริง ไม้สังเคราะห์ หรือไฟเบอร์ซีเมนต์
สำหรับการทาสีลงไปบนรั้วที่มีลวดลายไม้ ไม่ว่าจะลายไม้จริง หรือลายไม้สังเคราะห์ ให้เราคิดถึงผลลัพธ์ก่อนว่าหลังจากลงสีทาทับไปแล้วนั้นยังอยากให้เห็นลายไม้เดิมอยู่หรือไม่ ถ้าต้องการให้เห็นลายไม้เดิมให้เลือกใช้เป็นสีย้อมไม้ เพราะเป็นสีที่มีความโปร่งแสง หรือหากไม่ต้องการให้เห็นลวดลายเดิมให้เลือกใช้ประเภทสีที่เรียกว่า สีทาไม้แบบทึบแสง ที่มีเฉดสีหลากหลาย พร้อมคุณสมบัติที่สามารถปกปิดพื้นผิวเดิมได้อย่างเรียบเนียน