คอนโด MARU ลาดพร้าว 15 ใกล้รถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว โครงการตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว ใกล้ซอยลาดพร้าว 15 ซึ่งอยู่ห่างจาก MRT สถานีลาดพร้าวเพียง 80 เมตรเท่านั้น ซึ่งถนนลาดพร้าวเป็นเส้นที่มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้ง 2 ฝั่งถนนจะมีทั้งออฟฟิศ, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, อพาร์ทเม้นท์, คอนโดมิเนียมทั้ง High rise และ Low rise และบ้านพักอาศัย เรียกได้ว่าเป็นย่าน Vertical Living Area หรือ พื้นที่อยู่อาศัยในแนวตั้งอีกหนึ่งย่าน นั่นก็เพื่อการรองรับความเจริญของศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District) ย่านห้าแยกลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-พระราม 9 ซึ่งเป็น CBD ใหม่ของกรุงเทพมหานครนั่นเอง
แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้มี เซ็นทรัลลาดพร้าว กับ Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ส่วน Hypermarket ก็จะมี Gourmet Market สาขา MRT ลาดพร้าว, Big C ลาดพร้าว 2 (อยู่ห่างจากโครงการเพียง 350 เมตรเท่านั้น) และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Green และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดิน ออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้สะดวก
นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รร.หอวัง, ม.ราชภัฏจันทรเกษม และ ม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางถือว่าสะดวก เพราะโครงการอยู่ใกล้กับแยกลาดพร้าว-รัชดา และปริมาณรถบนถนนเส้นนี้ก็ค่อนข้างมากเช่นกัน จากถนนลาดพร้าวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย และตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนาและชลบุรี ไม่ไกลกันก็มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ค่ะ การเดินทางบนเส้นลาดพร้าวถ้าจะให้เร็วก็ต้องรู้จักซอยในการลัดเลาะไปยังถนนเส้นต่างๆ ประกอบเอา เพราะถ้าวิ่งบนถนนใหญ่ตรงๆ เลยก็อาจจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมงๆ เลย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ สำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์ถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกมากๆ เพราะจากทางเข้าของโครงการจะอยู่ห่างจาก MRT ลาดพร้าวเพียง 80 เมตรเท่านั้น เดินออกมาจากตัวอาคารเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว นอกจากนี้บริเวณทางลงรถไฟฟ้าก็จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์คอยจอดให้บริการอยู่ เวลาเร่งรีบก็นับว่าทันใจมาก
ในอนาคตการเดินทางจะสะดวกมากยิ่งขึ้น สถานีลาดพร้าว จะเป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ ที่ สถานีรัชดา ส่วน สถานีพหลโยธิน ที่อยู่ถัดไป 1 สถานีจะเป็นสถานี Interchange กับ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ของ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วง บางซื่อ-รังสิตที่ สถานีบางซื่อ นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการในอนาคต นั่นก็คือ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบทางด่วนรามอินทราอีก 1 สายค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม High rise ที่ออกแบบมาเพื่อให้อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ อาคารออกแบบโดยเน้นความสงบนิ่ง และใช้สีเทาอ่อนเป็นหลัก เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบ อยู่กับตัวเองได้มากขึ้น ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็อยู่ใกล้กับแหล่งความเจริญและการสังสรรค์ มีทั้งห้องขนาด 1 Bedroom-2 Bedrooms ให้เลือกตามความชอบและขนาดของครอบครัว โดยรวมแล้วออกแบบมาได้ลงตัวทีเดียวค่ะ
สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom มีการวางแปลนคล้ายห้องแบบ Studio แต่ห้องกั้นส่วนออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ฝ้าได้สูงถึง 2.7 ถือว่าโปร่งแล้วสำหรับการอยู่อาศัย ครัวจะได้เป็นครัวปิดอยู่บริเวณโถงทางเดินเข้าห้อง ส่วน Living Area สามารถวางชุดโซฟานั่งเล่นและโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ จากส่วน Living Area จะกั้นส่วนจากห้องนอนอีกที ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อย่างลงตัว โดยยังเหลือพื้นที่รอบๆ เตียงพอสมควร และยังเหลือพื้นที่พอสำหรับวาง Daybed หรือโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัว
ส่วนห้อง 2 Bedrooms จะได้ครัวแบบเปิดมาแทน รวมครัว, โต๊ะรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นอยู่ในส่วน Living Area ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ภายในห้องกว้างขวางขึ้นไปอีก ห้องนี้เราจะได้ตู้วางเครื่องซักผ้ามาเพิ่มเติม ส่วนห้องนอนจะกั้นส่วนออกจาก Living Area ด้วยผนังทึบ ทำให้รู้สึกมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Fitted ภายในห้องก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เป็นเคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob, Hood และ Sink จาก Franke, ตู้เก็บของ และตู้เสื้อผ้าค่ะ วัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็เลือกมาเป็นอย่างดี สุขภัณฑ์จาก Kohler และ Hafele ได้ในทั้งเรื่องคุณภาพและความสวยงาม ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตร.ม.ละ 130,000-177,000 บาทค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการจะเน้นมากเป็นพิเศษ มีพื้นที่ใช้สอยมาก จุดเด่นคือเป็น Pet Friendly & Wellness Living จัดสรรเนื้อที่มาให้อย่างหลากหลาย เหมาะสมสำหรับการทำกิจกรรมส่วนตัว และการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ถือว่าได้มาเยอะเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการ
ชั้น 1 : Lobby, Co-living Space, Co-working Forest, Verdure Forest, Bicycle Parking Rack with Tire Inflator, Bark&Bike Wash และ Commercial Unit/ ชั้น 2 : Hotspot Conference Room/ ชั้น 7 : Wisdom Forest/ ชั้น 10,15,20 : Pocket Terrace/ ชั้น 24 : Half Olympic Size Swimming Pool, Warm Water Pool, Kid’s Pool, Co-creation Space, Fitness Room และ Yoga Room/ ชั้นดาดฟ้า : Music Box, Relax Garden, BBQ Sunken Terrace, Outdoor Pool Table, Outdoor Theatre, Kid’s Playground และ Stargazing Deck
นอกจากนี้ทางโครงการยังมีที่จอดรถถึง 47% เป็นแบบ Conventional Parking ทั้งหมด อีกทั้งยังมี EV Charger, Passenger Lift 3 ตัว, Service Lift 1 ตัว ใช้ระบบ Access Card Control, กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม.
ทางโครงการจะมีกฎสำหรับการเลี้ยงสัตว์ โดยจะอนุญาตให้เลี้ยงเฉพาะสุนัขหรือแมว ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 20 กก. (ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานค่ะ เดี๋ยวลูกบ้านคนอื่นๆ จะกลัวเอานะ) การนำน้องๆ ขึ้น-ลงจากห้องจะห้องผูกสายจูงตลอดเวลา รวมถึงใช้ Service Lift เท่านั้น ส่วนกลางที่สามารถนำน้องๆ เข้าไปได้จะเป็นส่วน Outdoor เท่านั้น (ยกเว้นส่วน Outdoor ชั้นที่ 31 ที่เป็นชั้นสระว่ายน้ำ) โดยรายละเอียดสามารถสอบถามทางโครงการได้อีกครั้งนะคะ