บ้านเดี่ยวสุดหรูบนถนนราชพฤกษ์ Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ ทำเลของโครงการ Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-พระราม 5 ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ต้องเข้าซอยลึก อยู่ใกล้กับจุดกลับรถสองแห่ง นั่นคือ วงเวียนพระราม 5 และ จุดกลับรถใต้สะพานข้ามคลองอ้อมนนท์ ทำให้ค่อนข้างสะดวกกับการเดินทางด้วยรถยนต์
ซึ่งทำเลโซนราชพฤกษ์-นครอินทร์-รัตนาธิเบศร์นี้ คงไม่ต้องถามแล้วว่าต่อไปจะเจริญขึ้นมั้ย เพราะปัจจุบันก็มีการพัฒนาต่างๆเกิดขึ้นให้เห็นมากมาย ทั้งสะพานข้ามแม่น้ำที่จะเพิ่มเข้ามา ทั้งรถไฟฟ้าที่เฉียดเข้ามาใกล้ และยังมีห้างสรรพสินค้าอื่นๆอีกมากมายที่รอการเปิดตัวอยู่ ยิ่งถ้าสะพานข้ามแม่น้ำนนทบุรี 1 และรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้เมื่อไหร่ ความเจริญของถนนราชพฤกษ์เส้นนี้ก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วยแน่ๆ แต่ข้อเสียหลักๆ (ที่รุนแรง) ของโครงการบนถนนราชพฤกษ์นี้ก็คือ รถมันติดมาก ติดจนหงุดหงิด และต่อให้อยู่มานานแล้วก็ยังไม่มีทาง “ชิน” ดังนั้นต้องแก้โดยการตื่นเช้าๆ ออกจากบ้านเร็วๆ นะจ๊ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงรอบๆโครงการมีไม่มาก และน้อยกว่าโครงการที่อยู่เลยวงเวียนพระราม 5 ลงไปถึงบรมราชชนนี หน้าโครงการพอมี 7-Eleven และร้านอาหารเล็กๆแก้ขัดได้ แต่ถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะขับรถ 5 – 10 นาที (ถ้ารถไม่ติดมาก) จัดว่ามีเยอะทีเดียว เพราะมี Community Mall มาปักธงไว้แล้วหลายแห่ง เช่น The Walk, HomePro, HomeWork, The Circle หรือ The Crystal ที่กำลังจะเปิด ซึ่งก็ยิ่งส่งเสริมให้การใช้รถยนต์สะดวกมากขึ้นไปอีก แต่ในทางกลับกัน การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ หรือ Taxi ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าป้ายรถเมล์หน้าโครงการก็ไม่มี รถไฟฟ้าก็ไม่ใกล้
ตัวโครงการออกแบบมาโดยค่อนข้างเน้นเรื่อง Security กับ Privacy สังเกตได้จากเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆที่มีมาให้ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Triple Gate Security (ที่ผมแอบคิดว่าอาจจะต้องรอเปิดประตูกันนานเกินไปรึเปล่า), การแบ่งโซนลูกบ้านกับโซนผู้มาติดต่อ, กล้อง CCTV 40 ตัวรอบโครงการ, รั้วโครงการที่ต่อเติมขึ้นไปสูงๆ และใส่ระบบกันขโมยให้ทุกบ้าน ทุกบานประตูหน้าต่าง สำหรับบ้านราคา 10-15 ล้านแล้วก็ถือว่าให้มาสมน้ำสมเนื้อกัน และจำนวน 161 หลังเทียบกับที่ดิน 47 ไร่แล้ว ก็ถือเป็นจำนวนที่กำลังเหมาะสม ไม่เยอะเกินไป เทียบกับราคา
อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ พื้นที่สีเขียวในโครงการ ที่ตั้งใจใส่มาเยอะพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผมเข้ามาดูโครงการที่เปิดขายมาแล้ว 2 ปี แต่จะสังเกตเพิ่มเติมได้จากพื้นที่สวนสาธารณะ, แนวรั้วต้นไม้ตลอดทั้งโครงการ แม้แต่รั้วบ้าน หรือภายในบ้าน ก็จัดสวนให้ ใส่ต้นไม้มาแน่นดี สร้างความร่มรื่นในหมู่บ้านได้ดี
ตัวบ้านออกแบบมาถึงจะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ในระดับ 230-320 ตารางเมตร แต่ไม่ได้เน้นให้มีฟังก์ชั่นเยอะๆ แบบมีห้องเยอะๆอยู่กันหลายๆคน แต่ให้จำนวนฟังก์ชั่นมีเท่าๆกับครอบครัวปกติ 3-4 ห้องนอน แต่เน้นขยายขนาดของห้องให้ใหญ่ขึ้น และให้ใช้ฟังก์ชั่นแต่ละจุดได้สะดวกสบายขึ้น ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง มีห้องนั่งเล่น 2-3 แห่งในบ้านหลังเดียว ซึ่งอาจจะตอบโจทย์หรือไม่ตอบโจทย์ของแต่ละครอบครัวอันนี้ต้องดูตัวเองนะครับ ส่วนตัวผมจากที่ดูแล้ว ตัวบ้านขนาดกลาง 269 ตารางเมตร ดูจะตอบโจทย์กับระดับ อยู่ในจุดที่ Optimal ที่สุด เนื่องจากฟังก์ชั่นแทบไม่ต่างจากบ้านหลังใหญ่ 328 ตารางเมตร เพียงแค่พื้นที่จะเล็กกว่า แต่บ้านหลังใหญ่จะดูมีพื้นที่บางส่วนที่เกินๆมาที่อาจจะไม่ได้จำเป็นมาก เทียบกับเงิน 2-4 ล้านที่ต้องจ่ายเพิ่มจากบ้านขนาดกลาง ซึ่งคนที่เลือกบ้านหลังใหญ่สุด อาจจะมีความจำเป็นอย่างหนึ่งคือ ขนาดที่ดินที่ใหญ่กว่า กับจำนวนที่จอดรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดขายที่น่าสนใจของบ้านหลังใหญ่ครับ ส่วนคนที่กำลังเลือกระหว่างบ้านหลังกลาง กับหลังเล็ก ก็ให้มาดูความสำคัญของห้องแม่บ้าน กับห้องนอนชั้นล่างเป็นหลัก ซึ่งผมคิดว่า ถ้าจะต้องมีแม่บ้านมาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย การมีห้องแม่บ้านก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้ามีสมาชิกผู้สูงอายุในบ้าน ความจำเป็นของห้องนอนชั้นล่างก็ควรจะให้อาศัยอยู่อย่างจริงจังได้มากขึ้นครับ
วัสดุที่ให้มาในบ้านก็ถือว่าให้มาสมราคาค่าตัว พื้นห้องนอนเป็นปาร์เก้, กระเบื้องแกรนิโต้ 60×60 ผสมพื้นหินอ่อนสำหรับบ้านหลังใหญ่, บันไดไม้จริง, ประตูไม้สัก, สุขภัณฑ์ COTTO ทั้งหลัง, ติดสัญญาณกันขโมยที่ประตูหน้าต่างทุกบาน, จัดสวนให้รอบบ้าน, กระเบื้องห้องน้ำแต่งลายโมเสก รวมๆแล้วก็จัดว่าโอเค เพียงแต่ติดว่าไม่แถมแอร์ในราคามาตรฐานเนี่ยแหละ ดันแถมเฉพาะช่วงโปรโมชั่น ซึ่งคิดว่าก็น่าจะให้มาด้วยเลยนะ กี่ตัวก็ว่าไป อ้อแล้วห้องครัวผมคิดว่าใส่หน้าบานให้หน่อยก็ดีนะ ถึงจะรู้ว่าต้องการให้แต่งเองก็เถอะ
ส่วนสาธารณูปโภคในโครงการก็ถือว่าให้มาโอเค น่าใช้งาน มีพื้นที่สวนเยอะ เมื่อเทียบกับราคาบ้าน, จำนวนยูนิต, ขนาดของที่ดิน และราคาค่าส่วนกลางที่ 23 บาท/ตร.วา/เดือน