รู้จักชนิดหลอดไฟ พร้อมวิธีถอดเปลี่ยนหลอด สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งภายในบ้านคือ “หลอดไฟ” ที่ช่วยให้แสงสว่างภายในบ้าน แต่เชื่อว่าหลายคนต้องเคยพบกับปัญหาของหลอดไฟเสีย หมดอายุการใช้งาน ซึ่งบางครั้งไม่สามารถตามช่างมาแก้ไขหรือติดตั้งได้ทันที ลองมาดูรู้จักตั้งแต่ชนิดของหลอดไฟ หลอดไฟแบบไหนประหยัดพลังงาน และวิธีเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง
ก่อนจะไปถึงวิธีเปลี่ยนหลอดไป ลองมาทำความรู้จักก่อนว่าหลอดไฟมีกี่ชนิด ซึ่งใหลอดไฟแต่ละชนิดมี ข้อดี และข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. หลอดไส้ (Incandescent Lamp)
หลอดไฟที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน เรียกอีกชื่อว่า “หลอดดวงเทียน” เพราะสีของแสงคล้าย ๆ กับแสงเทียน มีทั้งชนิดแบบแก้ว และฝ้า วิธีการทำงานคือ กระแสไฟฟ้าจะผ่านไส้หลอดเปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าเป็นความร้อน เมื่อไส้หลอดร้อนจะเปล่งแสงออกมา ข้อดีคือ มีขนาดเล็ก ข้อเสียคือ อายุการใช้งานสั้น และกินไฟมาก ทำให้ค่าไฟแพง
2. หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent tube)
หลอดหลูออเรสเซนต์ หรือหลอดเรืองแสง ตัวหลอดจะมีไส้โลหะทังสเตนติดอยู่ที่ปลายทั้ง 2 ข้างของหลอด ผิวภายในฉาบด้วยสารเรืองแสง โดยมีการใส่ไอปรอทไว้เล็กน้อย หลักการทำงานคือ กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านปรอทแล้วคายพลังงานในรูปแบบรังสีอัลตราไวโอเลต เมื่อกระทบสารเรืองแสงที่ฉาบไว้ในหลอดก็จะเปล่งแสงออกมา
ข้อดีคือให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไส้ถึง 5 เท่า อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไส้ประมาณ 7-8 เท่า หรือประมาณ 6,000-20,000 ชั่วโมง
3. หลอดฮาโลเจน (Halogen)
พัฒนามาจากหลอดไส้ โดยใช้ก๊าซฮาโลเจนบรรจุภายในทำให้ทนทานกว่าหลอดไส้ปกติ จะให้ค่าความถูกต้องของสีถึง 100% เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างเป็นพิเศษ เช่น มุมอับของบ้าน ห้องทำงาน อายุการใช้งานประมาณ 1,500-3,000 ชั่วโมง
4. หลอดคอมแพคต์ฟลูออเรสเซนต์ (Compact fluorescent)
หลอดคอมแพคต์ฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดตะเกียบ มีการทำงานคล้ายหลอดฟลูออเรสเซนต์ มีทั้งแบบที่มีบัลลาสต์ในตัว และแบบอยู่ภายนอก มีรูปร่างที่หลากหลาย เช่น แบบเกลียว แบบหลอด แบบหลอดสี่แถว โดยจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์
5. หลอด LED
หลอดไฟ LED (Light-Emitting Diode) มีหลักการทำงานจะต่างจากหลอดทั่ว ๆ ไป โดยแสงสว่างเกิดขึ้นจากการเคลื่อนของอิเล็กตรอนภายในสารกึ่งตัวนำ มีข้อดีหลายด้าน เช่น ไม่มีความร้อน เพราะไม่มีการเผาไส้หลอด อายุการใช้งานยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง ใช้วัตตน์น้อย แต่ให้แสงสว่างมาก แต่ถนอมสายตา
ข้อดีที่สำคัญมาก ๆ ของหลอด LED คือ ประหยัดค่าไฟได้สูงสุดถึง 60% และไม่มีสาร UV และสารปรอท เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดภาวะโลกร้อน