เฟอร์นิเจอร์ผ้าเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในบ้าน แต่ก็มักจะเจอกับปัญหาเรื่องคราบสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคราบกาแฟ คราบอาหารหรือคราบจากสัตว์เลี้ยง การทำความสะอาดคราบเหล่านี้อาจดูยุ่งยาก แต่ถ้ารู้วิธีก็สามารถจัดการได้ง่ายๆ เฟอร์นิเจอร์ผ้าช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความสบายให้กับบ้าน แต่ก็สามารถสะสมสิ่งสกปรก คราบสกปรก และกลิ่นต่างๆ ได้ง่ายตามกาลเวลา
การดูแลและทำความสะอาดอย่างเหมาะสมจะช่วยรักษารูปลักษณ์และยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ได้ นี่คือคำแนะนำที่ครอบคลุมสำหรับการขจัดคราบสกปรกออกจากเฟอร์นิเจอร์ผ้าและรักษาบ้านให้สะอาดและเป็นระเบียบ
1. ดำเนินการอย่างรวดเร็ว
วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับคราบบนเฟอร์นิเจอร์ผ้าคือการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ยิ่งคราบทิ้งไว้นานเท่าไร ก็ยิ่งขจัดออกยากขึ้นเท่านั้น ซับคราบด้วยผ้าแห้งสะอาดเพื่อซับคราบที่หกออกมาให้ได้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการถู เพราะอาจทำให้คราบฝังลึกในเนื้อผ้า
2. ระบุคราบ
ก่อนที่จะใช้สารทำความสะอาดใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องระบุประเภทของคราบ คราบที่พบบ่อยได้แก่:
คราบอาหารและเครื่องดื่ม (กาแฟ, ไวน์, โซดา ฯลฯ)
คราบน้ำมัน (เนย, ไขมัน, เครื่องสำอาง)
คราบหมึกหรือสี (ปากกา, ปากกาเมจิก)
คราบสัตว์เลี้ยง (ปัสสาวะ น้ำลาย)
คราบต่าง ๆ อาจต้องใช้วิธีการทำความสะอาดเฉพาะ
3. ทดสอบสารทำความสะอาด
ควรทดสอบน้ำยาทำความสะอาดบนผ้าที่มองไม่เห็นก่อนเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยาจะไม่ทำให้เกิดรอยเปื้อนหรือความเสียหาย ตรวจสอบฉลากน้ำยาทำความสะอาดของเฟอร์นิเจอร์เพื่อดูวิธีการทำความสะอาดที่แนะนำ ซึ่งมักจะมีรหัสกำกับไว้ เช่น:
W : น้ำยาทำความสะอาดสูตรน้ำ
S : น้ำยาทำความสะอาดแบบตัวทำละลาย
WS : น้ำยาทำความสะอาดชนิดน้ำหรือตัวทำละลาย
X : สูญญากาศเท่านั้น
4. วิธีทำความสะอาดด้วยตัวเอง
สำหรับคราบส่วนใหญ่ คุณสามารถใช้สิ่งของในครัวเรือนทั่วไปเพื่อสร้างสารละลายทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพได้:
สำหรับคราบน้ำ (กาแฟ ชา น้ำผลไม้) ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 2 ถ้วย เช็ดเบาๆ ด้วยผ้านุ่ม ซับบริเวณนั้น แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สำหรับคราบไขมัน : โรยเบกกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดบนบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ทิ้งไว้ 15-20 นาทีเพื่อดูดซับน้ำมัน จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก ใช้น้ำยาล้างจานชนิดอ่อนโยนและน้ำอุ่นเพื่อขจัดคราบที่เหลือ
สำหรับคราบหมึก : ชุบแอลกอฮอล์ลงบนสำลีแล้วซับคราบเบาๆ หลีกเลี่ยงการถู เพราะอาจทำให้หมึกกระจายได้
สำหรับคราบสัตว์เลี้ยง : ใช้ส่วนผสมของน้ำส้มสายชู 1 ส่วนและน้ำ 1 ส่วนเพื่อกำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อในบริเวณนั้น หลังจากซับแล้ว ให้โรยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบเพื่อดูดซับความชื้นและกลิ่น จากนั้นจึงใช้เครื่องดูดฝุ่น
5. การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ผ้าอย่างล้ำลึก
แม้จะดูแลรักษาเป็นประจำ เฟอร์นิเจอร์ผ้าก็ยังได้รับประโยชน์จากการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกเป็นครั้งคราว คุณสามารถเช่าเครื่องทำความสะอาดด้วยไอน้ำหรือจ้างบริการทำความสะอาดเบาะแบบมืออาชีพเพื่อช่วยทำให้ผ้ากลับมาสดชื่นและขจัดสิ่งสกปรกที่ฝังแน่น
6. เคล็ดลับการป้องกัน
เพื่อลดโอกาสที่คราบและสิ่งสกปรกจะเกาะบนเฟอร์นิเจอร์ผ้า ให้ลองใช้กลยุทธ์ป้องกันดังต่อไปนี้:
การใช้ผ้าคลุม : ผ้าคลุมที่ถอดออกได้ง่ายและสามารถซักได้เป็นประจำ
ดูดฝุ่นเป็นประจำ : ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวดูดเบาะเพื่อดูดฝุ่น เศษอาหาร และขนสัตว์เลี้ยงออกจากเฟอร์นิเจอร์
หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง : การได้รับแสงแดดเป็นเวลานานอาจทำให้ผ้าซีดจาง ดังนั้นให้วางเฟอร์นิเจอร์ของคุณให้ห่างจากหน้าต่าง หรือใช้ผ้าม่านและมู่ลี่
7. การดูแลบ้านให้สะอาด
บ้านที่สะอาดและเป็นระเบียบควรได้รับการดูแลอย่างดีจากเฟอร์นิเจอร์ การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีพื้นที่อยู่อาศัยที่มีสุขภาพดีและสะดวกสบาย
สร้างตารางการทำความสะอาด : กำหนดตารางการทำความสะอาดรายสัปดาห์หรือรายเดือนสำหรับการปัดฝุ่น ดูดฝุ่น และทำความสะอาดอย่างล้ำลึก
จัดระเบียบ : กำจัดสิ่งของที่ไม่ได้ใช้เพื่อให้พื้นที่อยู่อาศัยของคุณดูเรียบร้อยและเป็นระเบียบ
ระบายอากาศภายในบ้าน : เปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์หมุนเวียน ลดกลิ่นและฝุ่นละอองภายในบ้าน
ตรวจสอบการซ่อมแซม : ตรวจสอบบ้านของคุณเป็นประจำเพื่อดูว่ามีการซ่อมแซมที่จำเป็นหรือไม่ เช่น ก๊อกน้ำรั่ว มือจับประตูหลวม หรือพรมปูพื้นสึกหรอ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเล็กๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่
บทสรุป
การดูแลเฟอร์นิเจอร์ผ้าและการบำรุงรักษาบ้านของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ยากลำบาก คุณสามารถรักษาบ้านให้ดูสดชื่นและน่าอยู่ได้นานหลายปีโดยการใช้มาตรการเชิงรุกในการทำความสะอาดคราบ ใช้สารทำความสะอาดที่เหมาะสม และบำรุงรักษาบ้านเป็นประจำ