การออกแบบตกแต่งห้องนั่งเล่นให้คุณสามารถใช้ชีวิตกลางแจ้งได้

การออกแบบห้องนั่งเล่นที่ผสมผสานพื้นที่ภายในกับพื้นที่ภายนอกได้อย่างลงตัวจะช่วยเพิ่มความสวยงามและการใช้งานให้กับบ้านของคุณได้อย่างมาก นี่คือแนวทางในการออกแบบห้องนั่งเล่นที่ให้คุณใช้ชีวิตกลางแจ้งได้ การออกแบบห้องนั่งเล่นให้เชื่อมต่อกับธรรมชาติช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติและใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างเต็มที่

1. เลือกหน้าต่างบานใหญ่และประตูกระจก
หน้าต่างบานใหญ่และประตูกระจกเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างห้องนั่งเล่นและภายนอกบ้าน ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง
ประตูบานเลื่อนกระจก:สามารถเปิดออกได้เต็มที่เพื่อลดขอบเขตระหว่างภายในและภายนอก
หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน:ให้ทัศนียภาพอันงดงามของสวนหรือลานบ้านของคุณ

2. ผสมผสานองค์ประกอบจากธรรมชาติ
การใช้วัสดุและองค์ประกอบจากธรรมชาติสามารถทำให้ห้องนั่งเล่นของคุณรู้สึกเหมือนเป็นส่วนขยายของพื้นที่กลางแจ้ง
เฟอร์นิเจอร์ไม้:เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ธรรมชาติเพื่อความรู้สึกแบบชนบทและเป็นธรรมชาติ
สำเนียงหิน:รวมองค์ประกอบหินไว้ในเตาผิงของคุณหรือเป็นผนังสำเนียง
ต้นไม้และพืชสีเขียว:ต้นไม้ในร่มสามารถเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติภายในบ้านและปรับปรุงคุณภาพอากาศ

3. เลือกใช้จานสีที่เป็นกลาง
จานสีที่เป็นกลางด้วยสีเอิร์ธโทนช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่กลมกลืนระหว่างพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง
สีขาว สีเบจ และสีเทาอ่อนสีเหล่านี้สามารถทำให้พื้นที่รู้สึกสงบและเป็นหนึ่งเดียวกัน
เฉดสีเขียวและน้ำตาล:สีเหล่านี้เลียนแบบสภาพแวดล้อมธรรมชาติและสามารถใช้ในอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น เบาะรองนั่ง ผ้าคลุม และพรม

4. สร้างพื้นที่ใช้สอยกลางแจ้ง
ออกแบบพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่สะดวกสบายและน่าดึงดูดใจซึ่งเติมเต็มห้องนั่งเล่นในร่มของคุณ
เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง:ลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งที่ทนทานและมีสไตล์ เช่น โซฟาหวายหรือไม้สัก เก้าอี้ และโต๊ะ
พรมกลางแจ้ง:สามารถกำหนดพื้นที่และเพิ่มสัมผัสที่แสนสบาย
วิธีแก้ปัญหาบังแดด:พิจารณาใช้ร่ม ซุ้มไม้เลื้อย หรือกันสาดแบบพับเก็บได้เพื่อให้ร่มเงาและปกป้องจากสภาพแวดล้อมต่างๆ

5. ใช้ประตูแบบเลื่อนหรือแบบบานพับ
ประตูแบบเลื่อนหรือแบบบานพับสามารถเปิดออกได้ทั้งหมด โดยผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารของคุณเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
ตะแกรงแบบยืดหดได้:สิ่งเหล่านี้สามารถกันแมลงออกไปพร้อมทั้งปล่อยให้อากาศบริสุทธิ์เข้าไปได้
ประตูแบบบานพับ:ประตูประเภทนี้สามารถพับกลับเพื่อสร้างช่องเปิดที่กว้าง เหมาะสำหรับการจัดประชุมที่ไหลจากภายในสู่ภายนอก

6. เพิ่มแสงสว่างกลางแจ้ง
แสงสว่างที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยกลางแจ้งที่น่าดึงดูดใจซึ่งสามารถใช้ได้หลังพระอาทิตย์ตกดิน
ไฟประดับ:สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมหัศจรรย์ได้
โคมไฟและเชิงเทียน:ช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและเป็นส่วนตัว
ไฟทางเดิน:สิ่งเหล่านี้สามารถนำทางแขกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับพื้นที่กลางแจ้งของคุณได้

7. รวมการเปลี่ยนพื้นแบบไร้รอยต่อ
การเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่คล้ายคลึงกันทั้งสำหรับพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารสามารถช่วยเชื่อมโยงทั้งสองพื้นที่เข้าด้วยกันได้
กระเบื้องพอร์ซเลนหรือเซรามิก:มีความทนทานและมีหลายดีไซน์ที่สามารถเข้ากับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร
พื้นระเบียง:พื้นไม้หรือไม้ผสมสามารถสร้างรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติและเป็นเนื้อเดียวกันได้

8. สร้างจุดโฟกัส
ออกแบบจุดสนใจที่จะดึงดูดความสนใจและเชื่อมโยงทั้งสองพื้นที่เข้าด้วยกัน
เตาผิง:เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูด
คุณสมบัติของน้ำ:น้ำพุหรือบ่อน้ำขนาดเล็กสามารถเพิ่มความสงบและผ่อนคลายได้

9. เพิ่มความสบายด้วยผ้าสำหรับใช้ภายใน-ภายนอกอาคาร
เลือกผ้าที่มีความทนทานเพียงพอสำหรับการใช้งานกลางแจ้งแต่สะดวกสบายสำหรับการใช้งานภายในอาคาร
เบาะรองนั่งและผ้าคลุมสำหรับกลางแจ้ง:สามารถทนต่อสภาพอากาศได้ แต่ยังคงให้ความสบายและมีสไตล์
ผ้าที่ทนต่อสภาพอากาศ:เหมาะสำหรับทำเบาะและสามารถทนต่อแสงแดดและฝนได้

มีหลายไอเดีย ในการออกแบบตกแต่งห้องนั่งเล่นให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ดังนี้
1. ผนังกระจก: ติดตั้งผนังกระจกบานใหญ่แทนผนังห้องบางส่วนเปิดรับวิวทิวทัศน์ด้านนอก ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องดูโปร่ง สบายตา
2. ประตูบานเลื่อน: ใช้ประตูบานเลื่อนแทนประตูห้องแบบปกติ เปิดออกได้กว้าง เชื่อมต่อพื้นที่ภายในกับภายนอกได้อย่างอิสระ
3. พื้นที่ระเบียง: เพิ่มพื้นที่ระเบียง ต่อเติมจากห้องนั่งเล่น จัดเป็นมุมพักผ่อน นั่งเล่น ทานอาหาร ชมวิวธรรมชาติ
4. สวนหย่อม: จัดสวนหย่อมขนาดเล็ก บริเวณหน้าต่างหรือมุมห้อง เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ความสดชื่น
5. เฟอร์นิเจอร์: เลือกเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติเช่น ไม้ หวาย เสริมบรรยากาศอบอุ่น กลมกลืนกับธรรมชาติ
6. แสงสว่าง: เลือกใช้แสงไฟสีเหลืองอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย
7. ต้นไม้: ประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ช่วยเพิ่มบรรยากาศสดใส ร่มรื่น
8. ของตกแต่ง: เลือกของตกแต่งที่สื่อถึงธรรมชาติเช่น หิน กิ่งไม้ เปลือกหอย

หากปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณก็สามารถสร้างห้องนั่งเล่นที่ขยายพื้นที่ใช้สอยออกไปนอกบ้านได้ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับความสวยงามและความเงียบสงบของธรรมชาติได้จากความสะดวกสบายในบ้านของคุณ