วิธีเลือกถุงขยะให้เหมาะกับการใช้งานในบ้าน ทุกบ้านต้องมี “ถุงขยะ” หรือ “ถุงดำ” ติดบ้านไว้ใส่ขยะหรือของต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ มีหลายไซซ์หลายขนาดให้เลือก แต่จะรู้ได้ยังไงว่าควรเลือกใช้ถุงขยะไซซ์ไหนดี ความหนาแบบไหนเหมาะกับขยะทั่วไป ความหนาแบบไหนสำหรับใส่ของหนัก ๆ เยอะ ๆ ประโยชน์ของถุงขยะใช้ทำอะไรนอกจากใส่ขยะได้อีกบ้าง และมีถุงขยะยี่ห้ออะไรบ้าง ตามไปดูข้อมูลกันเลยค่ะ
ถุงขยะผลิตจากพลาสติกชนิดรีไซเคิลได้ ได้แก่ HDPE (High-Density Polyethylene) พลาสติกเนื้อเหนียว น้ำหนักเบา ขนส่งและจัดเก็บง่าย อีกทั้งยังช่วยป้องกันกลิ่นและน้ำได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับขยะทั่วไป ใช้ได้ทั้งในบ้านและออฟฟิศ พลาสติกประเภท LDPE (Low-Density Polyethylene) มีคุณสมบัติคล้ายกันแต่มีความเหนียว ยืดหยุ่นได้ดี และทนกว่าพลาสติกชนิดแรก เหมาะสำหรับทิ้งขยะเปียก เช่น เศษอาหาร เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ รวมไปถึงของมีคม และเม็ดพลาสติก PE (Polyethylene) ที่มีความเหนียว ทนทาน ป้องกันน้ำและความชื้นได้ดี ใช้บรรจุของหรือขยะทั่วไปได้ เนื่องจากถุงขยะทำมาจากวัสดุรีไซเคิล ทำให้มีสีและคุณสมบัติเปลี่ยนไปจากเดิม ถุงขยะส่วนใหญ่เลยถูกทำให้เป็นสีดำเพื่อความสะดวกในการผลิตและใช้งานนั่นเอง
วิธีซื้อกถุงขยะควรเลือกจากความหนาและขนาด หากเป็นขยะทั่วไปควรเลือกถุงขยะที่มีความหนา 0.90 มิลลิเมตร ก็เพียงพอ แต่หากเป็นขยะในครัว เช่น เศษอาหาร เป็นของหนัก หรือของมีคม ควรเลือกถุงขยะที่มีความหนา 1.5 มิลลิเมตร หรือระบุว่า “ขยะหนัก” ส่วนขนาดของถุงให้เทียบจากความจุของถังขยะ ดังนี้
ขนาด 18×20 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 10 ลิตร
ขนาด 22×30 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 30 ลิตร
ขนาด 24×28 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 40 ลิตร
ขนาด 26×30 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 40 ลิตร
ขนาด 28×36 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 50 ลิตร
ขนาด 30×40 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 60 ลิตร
ขนาด 36×45 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 120 ลิตร
ขนาด 40×60 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 200 ลิตร
ขนาด 45×60 นิ้ว เหมาะกับถังขยะประมาณ 240 ลิตร
ปกติถุงขยะทั่วไปจะมีสีดำ เพราะช่วยปกปิดขยะที่อยู่ด้านในได้ดี และดูเป็นระเบียบเมื่อนำไปทิ้ง ตอนนี้มีหลายสีให้เลือกใช้มากขึ้น เช่น สีเขียว สีฟ้า สีเหลือง สีแดง เพื่อความสะดวกในการคัดแยกขยะก่อนนำไปทิ้ง