กำจัดสิ่งของที่แตกหัก สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในฮวงจุ้ยบ้าน

สิ่งของที่ชำรุดหรือเสียหายถือเป็นอุปสรรคต่อความสมดุลและความเป็นอยู่ที่ไม่ดี การนำสิ่งของดังกล่าวออกไปหรือซ่อมแซมถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการไหลเวียนของพลังบวก การมีสิ่งของที่แตกหักหรือแม้แต่ของตกแต่งที่ชำรุดอยู่ในบ้านนั้น ถือเป็นการสะสมพลังงานด้านลบ ซึ่งอาจนำมาซึ่งความไม่สมบูรณ์ ความขัดแย้งและโชคลาภที่ไม่ดี

ดังนั้นการกำจัดสิ่งของเหล่านี้ออกไป จึงเป็นการเปิดทางรับพลังงานบวกเข้ามาแทนที่ ต่อไปนี้คือแนวทางว่าเหตุใดจึงควรเก็บสิ่งของที่ชำรุดและสิ่งของใดที่ควรจัดการ
1. ความสำคัญของการนำสิ่งของที่เสียหายออกไป
การไหลเวียนของพลังงาน : สิ่งของที่แตกหักอาจขัดขวางการไหลเวียนของพลังงานตามธรรมชาติ ทำให้เกิดพลังงานที่นิ่งหรือพลังงานเชิงลบในบ้านของคุณ สิ่งของที่แตกร้าวหรือบิ่นทำหน้าที่เป็น “ตัวขัดขวางพลังงาน” ทำให้พลังชี่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
สุขภาพทางอารมณ์ : การเก็บสิ่งของที่ชำรุด โดยเฉพาะสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจ อาจทำให้คุณรู้สึกขาดความมั่นใจ สิ่งของที่ชำรุดและแตกหักอาจทำให้รู้สึกว่ายังทำไม่เสร็จ ซึ่งอาจส่งผลต่อความแจ่มใสทางจิตใจได้
สัญลักษณ์ : วัตถุที่แตกหักเป็นสัญลักษณ์ของพลังงานที่แตกหัก การขาดความมุ่งมั่น หรือปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข การนำวัตถุที่แตกหักออกไปแสดงถึงความตั้งใจที่จะรักษาความสมดุลและละทิ้งสิ่งแง่ลบ

2. รายการที่ต้องถอดออกหรือซ่อมแซม
กระจก : ในศาสตร์ฮวงจุ้ย กระจกมีความสำคัญเนื่องจากสะท้อนและขยายพลังงาน กระจกที่แตกร้าวจะสะท้อนพลังงานที่กระจัดกระจาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความเป็นอยู่ส่วนตัว ควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด
เฟอร์นิเจอร์ : เฟอร์นิเจอร์ชำรุด โดยเฉพาะเก้าอี้ เตียง หรือโต๊ะทำงาน อาจสื่อถึงการขาดการรองรับหรือความไม่มั่นคงในชีวิต ควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและน่าอยู่
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า : เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ทำงานจะสร้างพลังงานคงที่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการไหลเวียนของพลังชี่ในบริเวณสำคัญ เช่น ห้องครัว (สัญลักษณ์แสดงถึงอาหาร) หรือสำนักงาน (สัญลักษณ์แสดงถึงผลงาน)
นาฬิกา : นาฬิกาที่ชำรุดมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความซบเซา และอาจส่งผลเสียต่อความก้าวหน้าและการเติบโต ควรตรวจสอบว่านาฬิกาทุกเรือนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ หรือถอดนาฬิกาที่ซ่อมไม่ได้ออก
ของตกแต่ง : ของตกแต่งที่ชำรุด เช่น แจกันที่บิ่นหรืองานศิลปะที่ชำรุด อาจขัดขวางพลังงานด้านบวกได้ นอกจากนี้ ของตกแต่งเหล่านี้ยังทำหน้าที่เป็นตัวเตือนทางสายตาถึงความละเลย ซึ่งส่งผลต่อความภาคภูมิใจในบ้านของคุณ

3. หลักฮวงจุ้ยในการจัดระเบียบบ้าน
เน้นการใช้งาน : ฮวงจุ้ยส่งเสริมให้บ้านมีฟังก์ชันการใช้งาน หากสิ่งของใดชำรุดจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ ควรปล่อยมันไปเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับสิ่งของใหม่ๆ ที่มีประโยชน์
ให้ความสำคัญกับสิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ : ควรใส่ใจเป็นพิเศษกับสิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความรัก หรือสุขภาพ ตัวอย่างเช่น กระปุกออมสินที่แตกหรือกรอบรูปของคนที่คุณรักที่แตกอาจควรทิ้งไปเพื่อรักษาพลังงานด้านบวกในพื้นที่เหล่านี้
การทำความสะอาดตามปกติ : ตรวจสอบสิ่งของที่ชำรุดหรือเสียหายเป็นประจำ โดยเฉพาะสิ่งของที่ซ่อนไว้ในที่เก็บของ การนำสิ่งของเหล่านี้ออกไปจะช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนของพลังงาน

4. สิ่งของที่ควรหลีกเลี่ยง ตามหลักฮวงจุ้ย
วัตถุมีคมหรืออันตราย : สิ่งของมีคมหรืออันตราย เช่น แก้วแตกหรือเซรามิกร้าว อาจก่อความวุ่นวายและทำให้เกิดความวิตกกังวล ควรทิ้งสิ่งของเหล่านี้อย่างปลอดภัย
ต้นไม้ที่ตายไปแล้ว : ต้นไม้ที่ตายหรือใกล้ตายมักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังงานที่เสื่อมสลาย ควรปลูกต้นไม้ที่แข็งแรงและเจริญเติบโตเพื่อทดแทนต้นไม้เหล่านี้เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและความมีชีวิตชีวา
โคมไฟที่ชำรุด : แสงสว่างแสดงถึงความชัดเจนและความอบอุ่น ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนโคมไฟที่ชำรุดเพื่อให้แน่ใจว่าทุกพื้นที่ในบ้านของคุณมีแสงสว่างเพียงพอและเต็มไปด้วยพลังที่สดใส

การจัดระเบียบและกำจัดสิ่งของที่ชำรุดจะทำให้บ้านของคุณมีความสมดุลและกลมกลืนซึ่งส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี การปฏิบัติตามหลักฮวงจุ้ยอย่างมีสติจะทำให้บ้านของคุณกลายเป็นพื้นที่ที่สนับสนุนชีวิต ความฝัน และความสุขของคุณ