ฮวงจุ้ยบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางอาคารสูงอาจส่งผลไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

ตามหลักฮวงจุ้ยการจัดวางและจัดวางบ้านมีผลอย่างมากต่อสุขภาพ ความมั่งคั่งและความเป็นอยู่ที่ดี หลักการสำคัญประการหนึ่งคือความสำคัญของสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ที่อยู่อาศัยของคุณ แม้ว่าหลายคนอาจชอบความสะดวกสบายและทัศนียภาพที่สวยงามของบ้านที่อยู่กลางตึกสูง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยมักไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว บ้านที่อยู่ตรงกลางระหว่างตึกสูง มักถูกมองว่ามีลักษณะที่ไม่ดี มีเหตุผลหลายประการที่อธิบายถึงความเชื่อนี้ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
1. ลักษณะคล้ายโลงศพ: มีความเชื่อว่าลักษณะที่บ้านอยู่ระหว่างตึกสูงสองตึกนั้นคล้ายกับโลงศพ โดยที่บ้านตรงกลางเปรียบเสมือนศพที่อยู่ภายใน ทำให้พลังงานชี่ (พลังงานชีวิต) ไม่สามารถไหลเวียนเข้าสู่บ้านได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยประสบปัญหาด้านการเงิน การงาน และสุขภาพ
2. พลังงานถูกกดทับ: ตึกสูงที่อยู่รายล้อมจะบดบังพลังงานบวกและกดทับพลังงานในบ้าน ทำให้ผู้อาศัยรู้สึกอึดอัด ไม่สบาย และขาดโชคลาภ นอกจากนี้ ลมที่พัดผ่านระหว่างตึกสูงอาจมีความแรงและทิศทางที่ไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อสมดุลของพลังงานในบ้าน
3. ขาดความมั่นคง: บ้านที่อยู่ตรงกลางระหว่างตึกสูงมักขาดความมั่นคงและโดดเด่น ทำให้ผู้อาศัยรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับการสนับสนุน
4. อิทธิพลจากมุมแหลม: หากตึกสูงที่อยู่ใกล้มีมุมแหลมพุ่งเข้าหาบ้าน จะถือว่าเป็น “ศรพิฆาต” ซึ่งนำพลังงานร้ายมาสู่บ้าน ทำให้เกิดความขัดแย้ง อุบัติเหตุ และโรคภัยไข้เจ็บ

เหตุใดบ้านที่อยู่ใจกลางอาคารสูงจึงถูกมองว่าไม่คุ้มค่า?
การขาดการไหลเวียนและพลังงานตามธรรมชาติ (ชี่)ตามหลักฮวงจุ้ย บ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางอาคารอาจประสบปัญหาการไหลเวียนของพลังงานธรรมชาติ (ชี่) ไม่เพียงพอ เนื่องจากพื้นที่ตรงกลางอาคารมักเข้าถึงองค์ประกอบธรรมชาติ เช่น แสงแดดและอากาศบริสุทธิ์ได้จำกัด เมื่อพลังงานหยุดชะงัก อาจส่งผลต่อสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของผู้อยู่อาศัยได้

ความรู้สึกโดดเดี่ยว : บ้านที่อยู่กลางตึกสูงมักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและทางเดิน ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ ความรู้สึกโดดเดี่ยวอาจแสดงออกมาเป็นความรู้สึกเหมือนถูกกักขังหรือขาดการเชื่อมโยง ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ทางอารมณ์ของผู้อยู่อาศัย

การขาดทิศทางที่ชัดเจน : ฮวงจุ้ยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของเส้นทางที่ชัดเจนและการวางทิศทาง การวางไว้กลางอาคารซึ่งไม่มีด้านหน้าและด้านหลังที่ชัดเจนอาจทำให้เกิดความสับสนและไม่สมดุล หากขาดทิศทางที่ชัดเจน อาจทำให้ขาดจุดมุ่งหมาย ขาดสมาธิ หรือขาดการเติบโตในชีวิต

การปิดกั้นพลังงานบวก : ในอาคารสูง บ้านที่อยู่ตรงกลางมักถูกล้อมรอบด้วยอพาร์ตเมนต์อื่นๆ ทุกด้าน ซึ่งอาจปิดกั้นพลังงานบวกไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกไร้พื้นฐาน เฉื่อยชา หรือรู้สึกหนักใจ

สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อปรับปรุงการไหลของพลังงาน?

หากคุณอาศัยอยู่ใจกลางอาคารสูงและกังวลเกี่ยวกับหลักฮวงจุ้ยของพื้นที่ของคุณ คุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไปนี้เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของพลังงาน:

ใช้กระจก : กระจกสามารถสะท้อนแสงและพลังงาน ช่วยให้บริเวณที่รกร้างดูมีชีวิตชีวามากขึ้น การวางกระจกในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยเปลี่ยนทิศทางการไหลของพลังงานในบ้านของคุณได้

เพิ่มต้นไม้และองค์ประกอบจากธรรมชาติ : การนำต้นไม้ แหล่งน้ำ และองค์ประกอบจากธรรมชาติอื่นๆ เข้ามาจะช่วยเพิ่มพลังงานบวกให้กับพื้นที่ของคุณได้ องค์ประกอบเหล่านี้ยังช่วยฟอกอากาศและปรับปรุงบรรยากาศโดยรวมอีกด้วย

ปรับแสงให้เหมาะสม : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบ้านของคุณมีแสงสว่างเพียงพอ โดยใช้แสงธรรมชาติในตอนกลางวันและแสงประดิษฐ์ที่นุ่มนวลและอบอุ่นในตอนกลางคืน ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลพลังงานและทำให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งและน่าอยู่มากขึ้น

การกำจัดความยุ่งวุ่นวาย : หลักการที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในหลักฮวงจุ้ยคือการรักษาพื้นที่ให้ปราศจากความยุ่งวุ่นวาย ความยุ่งวุ่นวายจะขัดขวางการไหลเวียนของพลังชี่และอาจทำให้เกิดความเครียดและไม่สมดุล ทำความสะอาดและจัดระเบียบบ้านของคุณเป็นประจำเพื่อให้พลังงานไหลเวียนอย่างอิสระ

การอยู่อาศัยในใจกลางอาคารสูงอาจสะดวกสบาย แต่การตระหนักถึงปัญหาทางฮวงจุ้ยที่อาจเกิดขึ้นก็เป็นสิ่งสำคัญ การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพียงเล็กน้อยสามารถปรับปรุงการไหลเวียนของพลังงานและสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่กลมกลืนและสมดุลมากขึ้น