รู้จักประเภทของม่าน ก่อนนำไปตกแต่งบ้าน “ม่าน” เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ใช้ในการตกแต่งบ้าน นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศภายในแล้ว ยังมีฟังก์ชันกรองแสงแดดไม่ให้ส่องเข้ามาสู่ภายในบ้านมากเกินไป รวมถึงยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว หรือแม้กระทั่งมีหน้าที่เป็นพาร์ทิชันกั้นพื้นที่แบบยืดหยุ่น แล้วรู้หรือไม่ว่า ประเภทของม่าน ที่ต่างชนิดกัน สามารถส่งผลต่อความรู้สึกที่เเตกต่างกันได้ด้วย
เพียงแค่คุณเปลี่ยน ประเภทของม่าน ก็อาจจะมีผลต่ออารมณ์และสไตล์ของห้องนั้น ๆ ให้ต่างไปจากเดิมอย่างชิ้นเชิง เพราะลักษณะแสงที่เข้ามาในห้องมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยได้อย่างมาก ตามมาดูกันว่า ม่าน สามารถแบ่งออกได้เป็นกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทนั้นเหมาะกับห้องไหนในบ้าน เเละมีการใช้งานแบบไหนบ้าง
ม่านจีบ เป็นม่านทรงมาตรฐาน และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีวัสดุและสไตล์หลากหลายแบบให้เลือกใช้ สามารถเข้ากับห้องได้แทบทุกสไตล์ ซึ่ง ม่านจีบ สามารถติดผ้าได้ 2 ชั้น คือม่านโปร่ง และม่านทึบ ที่ทำจากผ้าชนิดต่าง ๆ ประกอบกับรางแหวนที่มีหลากหลายประเภท เช่น อะลูมิเนียม ไม้ และเหล็ก เพื่อเลือกให้เข้ากับสไตล์บ้านของคุณ
ข้อดี : สามารถเข้ากับห้องได้หลายสไตล์ มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย และสามารถติดกับหน้าต่าง หรือประตูที่มีการเปิดรับลมตลอด ไม่มีการปลิวเพราะม่านชนิดนี้ปลายม่านค่อนข้างหนัก
ข้อเสีย : เนื่องจากเป็นวัสดุผ้า จึงไม่ทนความชื้น เชื้อรา และกลิ่นอับ ทั้งยังค่อนข้างเก็บฝุ่นและเทอะทะเวลารวบเก็บ
Tip : เหมาะกับหน้าต่าง หรือประตูที่มีขนาดใหญ่ หากต้องการให้ห้องดูโมเดิร์นร่วมสมัย ควรออกแบบรางม่านซ่อนไว้บนฝ้าเพดาน ร่วมกับการออกแบบไลท์ติ้ง
ม่านพับ ม่านชนิดนี้ให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูทันสมัย การเก็บม่านพับจะคล้ายกับม่านม้วนที่มีการดึงรอกให้ม้วนขึ้นไปทั้งหมด แต่ม่านพับจะพับขึ้นไปเป็นชั้น ๆ วัสดุทำจากผ้าชนิดต่าง ๆ
ข้อดี : ประหยัดพื้นที่ในการรวบเก็บ ช่วยให้ห้องดูโปร่งสบาย
ข้อเสีย : เนื่องจากเป็นวัสดุผ้าจึงไม่ทนความชื้น เชื้อรา และกลิ่นอับ กันแสงได้น้อยกว่าม่านจีบ ค่อนข้างมีความยุ่งยากในการแกะทำความสะอาด
Tip : แนะนำให้ใช้ม่านชนิดนี้กับหน้าต่างบานแคบ หรือหน้าต่างบานเล็กที่ติดกันหลาย ๆ บาน จะทำให้ห้องดูดีมีสไตล์
ม่านมู่ลี่ ม่านที่เน้นความเรียบง่าย แต่มีสไตล์ ช่วยให้บานหน้าต่างดูไม่โล่งจนเกินไป แถมยังเพิ่มลูกเล่นให้ห้องมีช่องรับแสงที่ต่างจากม่านชนิดอื่น ความพิเศษของม่านนี้คือ สามารถปรับแสงเข้าได้ด้วยการปรับองศาของหน้าบานมู่ลี่ เพื่อควบคุมทิศทางและปริมาณแสงที่จะสาดส่องเข้ามาในห้อง
ข้อดี : สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทนความชื้นได้ดี
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับห้องที่ต้องการให้ลมผ่านตลอดเพราะจะทำให้มู่ลี่ชำรุดได้ง่าย
Tip : แนะนำให้ติดม่านมู่ลี่ในบริเวณห้องน้ำโซนเปียก หรือห้องครัว เพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทนความชื้นได้ดี