การดูแลตู้เสื้อผ้าเป็นส่วนสำคัญของการดูแลบ้าน เพื่อให้ตู้เสื้อผ้าและเสื้อผ้าของคุณสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อราและใช้งานได้ยาวนาน การทำความสะอาดและดูแลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ตู้เสื้อผ้าของคุณปลอดเชื้อราและเสื้อผ้าของคุณก็จะหอมสดชื่น ปลอดภัยต่อการสวมใส่ เช็ดทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าและบริเวณโดยรอบเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของฝุ่นและความชื้น
ขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เสื้อผ้า
นำเสื้อผ้าและของใช้ออกทั้งหมด: เริ่มต้นด้วยการนำเสื้อผ้าและสิ่งของทุกอย่างออกจากตู้ให้หมด
ตรวจเช็คเสื้อผ้า: ดูว่ามีชุดไหนมีเชื้อราหรือกลิ่นอับหรือไม่ หากพบให้รีบนำไปซักทำความสะอาดทันที (อาจใช้การซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 60°C สำหรับผ้าที่ทนได้)
ปัดฝุ่น: ใช้ไม้ปัดฝุ่นหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดฝุ่นผงตามมุมและซอกต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกตู้
ทำความสะอาดพื้นผิว:
ตู้ไม้: ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ หรือน้ำสบู่อ่อนๆ/ผงซักฟอกที่เป็นกลางเช็ดทำความสะอาด ห้ามใช้น้ำเยอะเกินไป เพราะอาจทำให้ไม้บวม
ตู้เหล็ก: ใช้ผ้าสะอาดเช็ด หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีกรดหรือเบสเป็นส่วนผสมหลัก
ตู้ที่มีกระจก: ใช้น้ำยาเช็ดกระจกและผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ด
เช็ดให้แห้งสนิท: สำคัญมาก หลังจากทำความสะอาดด้วยน้ำหรือน้ำยาแล้ว ต้อง ใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำทันที หรือใช้พัดลม/ไดร์เป่าผม (แบบไม่ร้อนเกินไป) เป่าจนพื้นผิวแห้งสนิท เพื่อป้องกันความชื้นและเชื้อรา
ทำความสะอาดรางประตู (ถ้ามี): ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงเล็กๆ ทำความสะอาดฝุ่นผงในรางประตู
ดูแลอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์: ใช้ผ้านุ่มและแห้งเช็ดมือจับ, บานพับ, หรือส่วนที่เป็นโลหะ ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารเคมีรุนแรงหรือของเหลวที่เป็นกรด อาจหยดน้ำมันหล่อลื่นที่ล้อเลื่อนหรือบานพับทุก 6 เดือนเพื่อการใช้งานที่ราบรื่น
เคล็ดลับการดูแลตู้เสื้อผ้าเพื่อป้องกันปัญหา
ป้องกันความชื้นและเชื้อรา:
ระบายอากาศ: เปิดประตูตู้เป็นประจำ หรือเปิดประตูหน้าต่างห้องเพื่อระบายอากาศ
ใช้สารดูดความชื้น: วางปูนขาวหรือสารดูดความชื้นซองเล็กๆ ไว้ที่มุมตู้
ห้ามเก็บผ้าเปียก: เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ต้องสะอาดและแห้งสนิทก่อนนำเข้าตู้
ป้องกันกลิ่นอับ: ใช้ถ่าน ทรายแมว หรือสบู่ก้อน (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ) วางไว้ในตู้เพื่อดูดกลิ่น
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมที่มีส่วนผสมของสารเคมีมากเกินไป
จัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ: หมั่นจัดระเบียบและคัดแยกเสื้อผ้าในตู้เสมอ เพื่อลดกลิ่นอับชื้นและการสะสมของเชื้อโรค
แยกประเภทเสื้อผ้าในการเก็บให้ถูกต้อง
ตำแหน่งการวางตู้: อย่าวางตู้ในที่ที่แสงแดดส่องถึงโดยตรง เพราะอาจทำให้ไม้เสียรูปทรงหรือแตกเปราะ
วิธีป้องกันเชื้อราไม่ให้กลับมาอีก
เชื้อรามีสาเหตุหลักมาจาก ความชื้น และ อากาศไม่ถ่ายเท การป้องกันจึงเน้นที่การควบคุมสองปัจจัยนี้:
ควบคุมความชื้น:
ใช้สารดูดความชื้น: วางถุงดูดความชื้น (ซิลิก้าเจล) หรือกล่องดูดความชื้นไว้ในตู้เสื้อผ้าหลาย ๆ จุด และเปลี่ยนเป็นประจำเมื่อสารดูดความชื้นเต็ม
หลีกเลี่ยงการเก็บเสื้อผ้าชื้น: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าที่นำเข้าตู้ แห้งสนิท 100% ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ซักแล้วหรือเสื้อผ้าที่เหงื่อออก
พิจารณาเครื่องลดความชื้น: หากห้องมีความชื้นสูงมาก อาจใช้เครื่องลดความชื้นในห้องเป็นประจำ
การระบายอากาศและการจัดเก็บ:
เปิดตู้ระบายอากาศ: เปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้บ้างในวันที่อากาศปลอดโปร่ง เพื่อให้อากาศถ่ายเท
เว้นระยะห่าง: อย่าใส่เสื้อผ้าในตู้แน่นจนเกินไป ควรเว้นระยะห่างระหว่างเสื้อผ้าเพื่อให้มีช่องว่างให้อากาศหมุนเวียนได้
ไม่วางตู้ชิดผนังอับ: หากเป็นไปได้ ควรวางตู้เสื้อผ้าให้ห่างจากผนังเล็กน้อย โดยเฉพาะผนังที่ติดกับห้องน้ำหรือผนังที่มีความชื้น
ทำความสะอาดสม่ำเสมอ: เช็ดทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าและบริเวณโดยรอบเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของฝุ่นและความชื้น
การทำความสะอาดและดูแลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ตู้เสื้อผ้าของคุณปลอดเชื้อรา และเสื้อผ้าของคุณก็จะหอมสดชื่น ปลอดภัยต่อการสวมใส่
หากคุณพบ เชื้อราในตู้เสื้อผ้า คุณสามารถผสมน้ำกับน้ำส้มสายชู หรือน้ำยาล้างจาน/ผงซักฟอกที่มีคุณสมบัติกำจัดเชื้อโรค ใช้แปรงสีฟันหรือผ้าจุ่มเช็ด/ขัดออก แล้วเช็ดด้วยน้ำสะอาดและทำให้แห้งสนิททันที
