ฤดูฝนมักมาพร้อมกับฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนอง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของบ้านคุณอีกด้วย หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องใส่ใจในช่วงนี้คือระบบไฟฟ้า การตรวจสอบและบำรุงรักษาสายไฟ เต้ารับและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างถูกต้องสามารถช่วยป้องกันอันตรายต่างๆ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟกระชากและแม้แต่ไฟไหม้
ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเรื่องระบบไฟฟ้าเป็นพิเศษ เพราะความชื้นและน้ำเป็นตัวนำไฟฟ้าและเพิ่มความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟดูดได้นี่คือเคล็ดลับสำคัญบางประการที่จะช่วยให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าของคุณปลอดภัยและเชื่อถือได้ในช่วงฤดูฝน
1. ตรวจสอบสายไฟที่ชำรุด
สายไฟที่หลุดหรือขาดง่ายสามารถดูดซับความชื้นได้ง่าย ซึ่งนำไปสู่ไฟฟ้าลัดวงจรที่เป็นอันตราย ควรตรวจสอบสายไฟที่มองเห็นได้ภายในบ้านเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณใกล้หน้าต่าง ประตู หรือบริเวณที่มีความชื้น หากคุณสังเกตเห็นรอยแตก รอยไหม้ หรือฉนวนที่สึกหรอ ให้รีบนำช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตไปซ่อมแซมทันที
2. ตรวจสอบเต้ารับและสวิตช์ไฟฟ้า
ฝนและความชื้นอาจทำให้เต้ารับเปียกชื้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าช็อตหรือทำงานผิดปกติ ตรวจดูการเปลี่ยนสี อุปกรณ์หลวม หรือความร้อนที่ผิดปกติขณะใช้งาน พิจารณาติดตั้งฝาครอบกันน้ำสำหรับเต้ารับไฟฟ้าภายนอก
3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการต่อสายดินอย่างถูกต้อง
การต่อสายดินช่วยเปลี่ยนเส้นทางกระแสไฟฟ้าส่วนเกินลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย ในช่วงที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง การต่อสายดินอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องเครื่องใช้ไฟฟ้าและลดความเสี่ยงจากการถูกไฟฟ้าดูด หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับระบบสายดินของบ้าน ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทดสอบและอัปเกรดหากจำเป็น
4. ใช้อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก
ฟ้าผ่าและสายไฟที่ไม่เสถียรในช่วงที่มีพายุอาจทำให้เกิดไฟกระชากฉับพลันซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากเป็นวิธีที่คุ้มค่าในการปกป้องเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีค่า เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น และคอมพิวเตอร์
5. รักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าให้แห้ง
หลีกเลี่ยงการวางอุปกรณ์ไฟฟ้าในบริเวณที่ชื้น เช่น ใกล้หน้าต่างหรือบนพื้นที่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของน้ำ จัดเก็บสายไฟพ่วงให้ถูกต้องและอย่าวางสายบนพื้นผิวที่เปียก
6. นัดหมายให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
แม้ว่าเจ้าของบ้านจะสามารถจัดการตรวจสอบเบื้องต้นได้ แต่ช่างไฟฟ้าที่ได้รับการรับรองก็สามารถตรวจสอบระบบทั้งหมดได้อย่างละเอียด การบำรุงรักษาประจำปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนหรือในช่วงฤดูฝน ช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบสายไฟ เบรกเกอร์ และสายดินของบ้านคุณอยู่ในสภาพดี
ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานช่วงหน้าฝน
ในชีวิตประจำวันช่วงที่ฝนตกหนักหรือมีน้ำขัง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงครับ
ห้ามสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อร่างกายเปียก: ไม่ว่าจะเป็นพื้นเปียก หรือตัวเราเปียก ห้ามแตะต้อง สวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด
ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน: ควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อไม่ได้ใช้งาน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น เพื่อป้องกันความเสียหายจาก ไฟกระชาก หรือ ฟ้าผ่า
ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไฟตก/ไฟดับ: หากเกิดเหตุการณ์ ไฟตก หรือไฟกระพริบ ควรปิดและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูงทันที เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์
ไม่ใช้ปลั๊กพ่วงเกินกำลัง: หลีกเลี่ยงการต่อปลั๊กพ่วงแบบซ้ำซ้อนหรือใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่กินไฟสูงพร้อมกันหลายตัว เพราะจะทำให้เกิดความร้อนสูงและเสี่ยงต่อการลัดวงจร
ระวังน้ำรั่วซึมใกล้จุดไฟฟ้า: หากพบรอยรั่วซึมของน้ำจากหลังคาหรือผนัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีสวิตช์หรือปลั๊กไฟ ควรรีบซ่อมแซมทันที
การสละเวลาตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในบ้านในช่วงฤดูฝน ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณอีกด้วย การดูแลป้องกันเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยปกป้องครอบครัวและทรัพย์สินของคุณจากอันตรายจากไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมาก