เคยสงสัยไหมว่าทำไม “ที่ดิน” ถึงมีราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีวันลด

สำหรับการลงทุนที่หลายคนสนใจ ด้วยเหตุว่าที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่ได้ผลทดแทนค่อนข้างจะมากมาย ซื้อทิ้งเอาไว้สักหลายๆปี ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีช่องทางได้กำไรถึงเท่าตัว หรือจะปลดปล่อยให้เช่าเป็นเสือนอนกินสบายๆก็ทำเป็น และก็ที่สำคัญเป็นที่ดินมีการเสี่ยงต่ำ ตามที่คนไม่ใช่น้อยถูกใจกล่าวกันว่า ที่ดินไม่มีทางราคาลดน้อยลง 

 

ราคา ใครกำหนด?

หากไม่นับนโยบายของรัฐบาล ราคาเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดระบุได้ แม้กระนั้นทุกคนที่อยากได้ของสิ่งนั้นจะเป็นคนระบุ หากให้ดูกล้วยๆการที่ราคามากขึ้น หมายความว่ามีคนพึงพอใจจะจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อปรารถนาของสิ่งนั้น หากราคาลดน้อยลง หมายความว่าไม่มีผู้ใดยอมจ่ายในราคาเดิม ทำให้ผู้ขายจะต้องลดลงให้ผู้ที่ต้องการจะจ่ายน้อยกว่าได้ซื้อผลิตภัณฑ์นั้นไป

แม้กระนั้นผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่าที่ดินนั้นต่างกับผลิตภัณฑ์อื่นๆโน่นเป็น มันไม่อาจจะผลิตเพิ่มได้ ถ้าเกิดอยากได้บ้านแถวสาทรสักข้างหลัง ก็คงจะไม่มีผู้ใดผลิตที่ดินสาทรเพิ่มได้ หากอยากได้ที่ดินนั่นก็มีทางเดียว ก็คือการซื้อต่อจากเจ้าของเดิม

ข้อดีที่สุดของที่ดินก็คือ การที่มันมีเพียงแค่ชิ้นเดียว นั่นเอง เมื่อผู้ใดกันอยากได้ที่ตรงนี้ ก็จำต้องซื้อต่อแค่นั้น ถ้าหากให้เปรียบเทียบแล้ว ก็อาจจะเสมือนงานศิลปะดีๆสักชิ้น ที่มีชิ้นเดียวในโลก ถ้าเกิดยิ่งเป็นทำเลดีๆหาเลี้ยงชีพก้าวหน้า ใครๆต่างก็อยากได้เป็นเจ้าของ ก็เลยไม่น่าแปลกเลยที่ราคาที่ดินในเมืองถึงแพงลิบได้ถึงขั้นนั้น

ราคาไม่มีวันลดลง

สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือ ราคาที่ดินที่สูงกว่าราคาของมัน ในตอนที่เศรษฐกิจมีสภาวะฟองสบู่ การลงทุน การเก็งกำไร โดยยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของอสังหาฯ ที่มีการเก็งกำไรกันจนถึงราคาสูงขึ้นไปสูงยิ่งกว่าเรื่องจริงมากมาย ซึ่งราคาพวกนั้นไม่ใช่ราคาที่แสดงถึงราคาที่จริงจริงของที่ดิน แม้กระนั้นมันผสมรวมกับความมุ่งหวังในอนาคตเข้าไปด้วย

ถ้าหากฟองสบู่แตกขึ้นมา ไม่มีผู้ใดคิดจะเก็งกำไรกันต่อแล้ว ราคาคาดหมายพวกนั้นก็หายไป ที่ดินที่พวกเราซื้อมาหลายล้าน ก็จะมีผู้รับซื้อแค่เพียงพอๆกับค่าที่จริงจริงของมัน ราคาที่ดินก็เลยดูเหมือนจะน้อยลงนั่นเอง

 

สรุป 

ดูเหมือนกับว่าการลงทุนในที่ดินจะมีจุดเด่น แม้กระนั้นกว่าจะซื้อที่ดินได้แต่ละแปลงนั้นแพงอย่างมาก จะแบ่งซื้อครั้งละตารางเซนติเมตรราวกับซื้อหุ้น ซื้อทองคำ ก็คงทำไม่ได้ หากหวังเก็งกำไรจากที่ดิน ในพื้นที่ในกลางเมืองก็แพงไป นอกก็อาจจะจะต้องรอคอยอีกเป็นเวลายาวนานกว่าเมืองจะขยายตัวไปถึง หรือถ้าเกิดมีเงินเยอะแยะเพียงพอจะซื้อได้ แม้กระนั้นซื้อไปแล้วราคาไม่ค่อยขึ้น อาจจะโชคร้ายแทนที่จะเอาเงินมากมายขนาดนั้นไปลงทุนในด้านอื่นๆบางทีก็อาจจะได้กำไรมากยิ่งกว่า